กลยุทธ์การใช้สินเชื่อธุรกิจให้คุ้มค่า 100 % เพื่อเพิ่มกำไรให้ธุรกิจมั่นคง

กลยุทธ์การใช้สินเชื่อธุรกิจให้คุ้มค่า 100 % เพื่อเพิ่มกำไรให้ธุรกิจมั่นคง

Highlight

  • การวางกลยุทธ์ใช้สินเชื่อธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้ในหลายทาง ทั้งการหนุนโอกาสในการสร้างกำไร ขยายตลาดใหม่ เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ยั่งยืน สร้างนวัตกรรมที่แตกต่าง และใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการแข่งขันทางธุรกิจ
  • แนวทางการกระจายความเสี่ยงด้วยสินเชื่อธุรกิจ มีผลช่วยในการป้องกันและลดผลกระทบต่อกิจการ โดยสามารถนำเงินกู้ที่ได้มาเพื่อกระจายแหล่งรายได้ ปรับโครงสร้างหนี้ การกระจายแหล่งสินเชื่อ ลงทุนในเทคโนโลยีลดความเสี่ยง และสร้างแผนฉุกเฉินทางการเงิน
  • การบริหารสินเชื่อร่วมกับแผนการเงินระยะยาวจะต้องคำนึงถึงในด้านต่าง ๆ ทั้งการตั้งเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจน การติดตามและปรับปรุงแผนการเงิน การบริหารความเสี่ยงในระยะยาว และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงิน
  • ผู้ประกอบการสามารถใช้ตัวช่วยดิจิทัลในการบริหารจัดการสินเชื่อธุรกิจได้ โดยมีหลายทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งซอฟท์แวร์บริหารจัดการการเงิน ระบบจัดการสินเชื่อ แอปพลิเคชันการเงิน เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล และระบบอัตโนมัติทางการเงิน

รวม 5 แนวทางและเทคนิคเพื่อใช้สินเชื่อธุรกิจให้เกิดความคุ้มค่า

เทคนิควางกลยุทธ์การใช้สินเชื่อเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจ

การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ รัดกุม และปรับปรุงให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในด้านการเงินที่เชื่อมโยงไปถึงสินเชื่อธุรกิจซึ่งต้องมีการกำหนดกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายในด้านต่าง ๆ

เพื่อให้สามารถบรรลุผลสำเร็จตามที่ต้องการได้ โดยใช้เงินกู้สินเชื่อธุรกิจเป็นเครื่องมือ ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจจึงควรมีความรู้ว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้เงินทุกบาทเกิดความคุ้มค่า ซึ่งเรามีไกด์ไลน์ที่จะช่วยนำทางให้คุณสามารถวางแผนได้อย่างมืออาชีพ ซึ่งสามารถนำสินเชื่อธุรกิจไปใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง มาติดตามกัน

1. การใช้สินเชื่อเป็น “แรงขับเคลื่อน” ในการเพิ่มกำไร

  • การใช้เงินทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การปรับปรุงสายการผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
  • ลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ระยะยาว เช่น การซื้อพื้นที่เชิงพาณิชย์หรืออสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง
  • การสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ เช่น การพัฒนาสินค้าใหม่หรือเพิ่มบริการเสริม

2. การใช้สินเชื่อเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในตลาดใหม่

  • ขยายตลาดในระดับภูมิภาคหรือระดับโลก ใช้สินเชื่อสนับสนุนการวิจัยตลาดและแผนการตลาดระหว่างประเทศ
  • การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ใช้เงินทุนสร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อลดการแข่งขันและเพิ่มศักยภาพการเจาะตลาด
  • พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล ใช้สินเชื่อเพื่อสร้างหรือปรับปรุงเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, หรือระบบ E-commerce

3. การวางกลยุทธ์ให้สินเชื่อเป็น “ทุนหมุนเวียนเพื่อความยั่งยืน”

  • การจัดสรรสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงฤดูกาลสำคัญ เช่น ช่วงเทศกาลที่ยอดขายพุ่งสูง
  • ลดการพึ่งพาเงินสด ใช้สินเชื่อระยะสั้นหรือวงเงิน OD เพื่อให้ธุรกิจมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ
  • การหมุนเวียนหนี้สินเพื่อการลงทุนต่อยอด ใช้กลยุทธ์ Refinancing สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มเงินทุนในการขยายตัว

4. การใช้สินเชื่อเพื่อสร้างนวัตกรรมและความแตกต่าง

  • การวิจัยและพัฒนา ใช้เงินทุนพัฒนาสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาคต
  • สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ลงทุนในการทำการตลาด, การประชาสัมพันธ์, หรือแคมเปญออนไลน์
  • การใช้เทคโนโลยี AI และ Big Data เพื่อปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการขาย

5. การใช้สินเชื่อในฐานะเครื่องมือสำหรับแข่งขัน

  • การลดราคาด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ใช้สินเชื่อเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ทำให้ลดต้นทุนต่อหน่วยสินค้า
  • การสร้างข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ เช่น เปิดตัวสินค้าหรือบริการก่อนคู่แข่ง
  • สร้างความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ เช่น เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

สรุป 5 แนวทางใช้สินเชื่อธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง

แนวทางวางแผนกระจายความเสี่ยงด้วยสินเชื่อธุรกิจ

ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสภาพแวดล้อม ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ การกู้เงินผ่านสินเชื่อธุรกิจยังสามารถสร้างประโยชน์ในด้านของการกระจายความเสี่ยง ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อกิจการได้ ซึ่งการวางแผนที่ครอบคลุม ในทุกมิติถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ หากคุณยังไม่ทราบว่าสินเชื่อธุรกิจช่วยได้อย่างไรบ้าง เรามีคำตอบที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น

1. การใช้สินเชื่อเพื่อกระจายแหล่งรายได้

  • สนับสนุนธุรกิจเสริม ใช้สินเชื่อในการสร้างธุรกิจเสริมที่ไม่พึ่งพาธุรกิจหลัก เช่น ธุรกิจค้าปลีกหรือบริการเสริมที่เกี่ยวข้อง
  • ขยายตลาดเป้าหมาย ลงทุนในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ในตลาดที่มีศักยภาพ เช่น ต่างประเทศหรือกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง
  • เพิ่มความหลากหลายในผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น ใช้สินเชื่อในการพัฒนาสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลายกลุ่ม

2. การปรับโครงสร้างหนี้

  • เจรจาปรับเงื่อนไขสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยหรือยืดระยะเวลาชำระหนี้ในช่วงวิกฤต
  • การรีไฟแนนซ์ (Refinancing) เปลี่ยนสินเชื่อเดิมที่มีดอกเบี้ยสูงเป็นสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  • การผสมผสานระหว่างแหล่งทุน เช่น ใช้สินเชื่อร่วมกับทุนส่วนตัวหรือการระดมทุนจากนักลงทุน

3. การกระจายแหล่งสินเชื่อ

  • เลือกสินเชื่อจากหลายสถาบันการเงิน เพื่อไม่ให้พึ่งพาแหล่งเงินทุนเดียวและลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดปัญหากับสถาบันการเงินใดสถาบันหนึ่ง
  • ใช้สินเชื่อที่มีเงื่อนไขหลากหลาย เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ ดอกเบี้ยลอยตัว หรือสินเชื่อระยะสั้นและระยะยาว
  • ศึกษาสินเชื่อพิเศษที่รัฐสนับสนุน เช่น สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SMEs หรือสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูหลังวิกฤต

4. การลงทุนในเทคโนโลยีลดความเสี่ยงด้วยสินเชื่อ

  • ระบบบริหารความเสี่ยง เช่น ระบบจัดการสินค้าคงคลัง หรือการใช้ซอฟต์แวร์บัญชีเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
  • การประกันความเสี่ยงทางธุรกิจ ใช้สินเชื่อในการซื้อประกันภัยที่ครอบคลุม เช่น ประกันภัยสำหรับทรัพย์สิน หรือประกันรายได้
  • ลงทุนในระบบสำรองข้อมูล เช่น Cloud Computing เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น

5. การสร้างแผนฉุกเฉินทางการเงิน

  • กำหนดวงเงินสำรองสำหรับภาวะวิกฤต คำนวณวงเงินสินเชื่อที่จำเป็นสำหรับดำเนินธุรกิจอย่างน้อย 6 – 12 เดือนในกรณีที่รายได้ลดลง
  • วางแผนการลดต้นทุนเมื่อจำเป็น ใช้สินเชื่อในการลงทุนเพื่อลดต้นทุน เช่น ซื้อเครื่องจักรที่ประหยัดพลังงานหรือวัตถุดิบในปริมาณมากเพื่อราคาที่ถูกลง
  • การเตรียมพร้อมกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ เช่น การใช้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยคงที่เพื่อป้องกันผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลง

4 กลวิธีเพื่อเชื่อมโยงการบริหารสินเชื่อธุรกิจกับแผนการเงินระยะยาว

การบริหารสินเชื่อธุรกิจร่วมกับแผนการเงินระยะยาว

ทุกคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจย่อมคาดหวังให้กิจการของตนเองอยู่รอด มีกำไร และขยายตัวเติบโตไปได้อย่างมั่นคง ซึ่งแน่นอนว่า “เงินทุน” ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลอย่างมากต่อการกำหนดชะตาอนาคตของธุรกิจ ดังนั้นการบริหารสินเชื่อธุรกิจร่วมกับแผนการเงินระยะยาวที่สอดคล้องต่อเป้าหมายการพัฒนาในแต่ละช่วงเวลาจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณต้องดำเนินการ โดยจะต้องคำนึงถึงในด้านใดบ้าง ที่จะช่วยอุดช่องโหว่ และใช้สินเชื่อที่ได้มาอย่างคุ้มค่าที่สุด มาค้นพบวิธีการที่คุณควรนำไปประยุกต์ใช้

1. การตั้งเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจน

  • กำหนดเป้าหมายการเงินระยะยาว เช่น การขยายธุรกิจ การเพิ่มผลกำไร หรือการเข้าสู่ตลาดใหม่
  • วางแผนสินเชื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย เลือกประเภทสินเชื่อและระยะเวลาการกู้ยืมที่เหมาะสมกับเป้าหมาย เช่น สินเชื่อระยะยาวสำหรับการซื้อทรัพย์สินถาวร หรือสินเชื่อระยะสั้นสำหรับเสริมสภาพคล่อง

2. การติดตามและปรับปรุงแผนการเงิน

  • ติดตามสถานะการชำระหนี้ ใช้ระบบบัญชีหรือซอฟต์แวร์ในการตรวจสอบความคืบหน้าของการชำระเงิน
  • วิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุน ว่าสินเชื่อที่กู้มาใช้สร้างกำไรและผลประโยชน์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่
  • ปรับปรุงแผนตามผลการดำเนินงาน หากพบปัญหาหรือไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ให้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยทันที

3. การบริหารความเสี่ยงในระยะยาว

  • วางแผนลดความเสี่ยงด้านดอกเบี้ย เช่น เลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ หรือทำประกันอัตราดอกเบี้ย
  • สร้างความยืดหยุ่นในกระแสเงินสด ใช้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤต หรือเพิ่มทุนสำรองสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
  • เตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนของตลาด เช่น การใช้สินเชื่อในโครงการที่มีศักยภาพสูงเพื่อสร้างฐานกำไรที่มั่นคง

4. การสร้างความสัมพันธ์กับสถาบันการเงิน

  • รักษาเครดิตทางธุรกิจที่ดี ชำระหนี้ตรงเวลาและบริหารบัญชีการเงินอย่างโปร่งใส
  • พัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาว เพื่อเข้าถึงสินเชื่อในเงื่อนไขที่ดีกว่า เช่น การขยายวงเงินหรือดอกเบี้ยพิเศษ
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการเงิน ขอคำแนะนำเกี่ยวกับโครงสร้างหนี้และกลยุทธ์การบริหารสินเชื่อ

5 รูปแบบเครื่องมือดิจิทัลเพื่อการบริการจัดการสินเชื่อธุรกิจที่ทันสมัย

ตัวช่วยดิจิทัลในการบริหารจัดการสินเชื่อธุรกิจ

ในปัจจุบันการทำธุรกิจมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่มีความทันสมัย ซึ่งหากคุณสามารถนำมาใช้ก็จะช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มศักยภาพให้แก่กิจการ โดยตัวช่วยดิจิทัลที่น่าสนใจในด้านการบริหารจัดการสินเชื่อธุรกิจและการเงินมีอะไรกันบ้าง เราได้รวบรวมและสรุปเพื่อมาชี้เป้าให้แก่ทุกคนได้ลองนำไปปรับใช้ เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และเสริมประสิทธิภาพในการทำธุรกิจกัน

1. ซอฟต์แวร์บริหารการเงิน

  • SAP Business One ซอฟต์แวร์ Enterprise Resource Planning ที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ช่วยจัดการบัญชี การเงิน และสินเชื่อได้แบบครบวงจร
  • Xero และ QuickBooks ซอฟต์แวร์บัญชีที่ช่วยจัดการรายรับ – รายจ่าย วิเคราะห์กระแสเงินสด และเชื่อมโยงกับธนาคาร

2. ระบบจัดการสินเชื่อ

  • Finnomena for Business ให้บริการเครื่องมือบริหารสินเชื่อและการลงทุนสำหรับองค์กรที่ต้องการจัดการการเงินแบบครบวงจร
  • GHL Systems ระบบที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้นผ่านกระบวนการที่รวดเร็ว

3. แอปพลิเคชันด้านการเงิน

  • K PLUS SME แอปพลิเคชันจากธนาคารกสิกรไทย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจ SMEs สำหรับจัดการธุรกรรมการเงิน ตรวจสอบวงเงินสินเชื่อ และติดตามสถานะทางการเงิน
  • Krungthai NEXT แอปพลิเคชันจากธนาคารกรุงไทยที่ช่วยจัดการการเงินและการชำระสินเชื่อ

4. เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล

  • Power BI และ Tableau เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยธุรกิจวางแผนการเงินและสินเชื่อโดยอ้างอิงจากข้อมูลการขายและประวัติทางการเงิน
  • Alternative Data Tools ฟินเทคหลายแห่ง เช่น Ascend Money และ SCB Abacus ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งที่ไม่ใช่ธนาคาร เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและปล่อยสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ

5. ระบบอัตโนมัติทางการเงิน

  • Robotic Process Automation (RPA) ใช้ AI และระบบอัตโนมัติ เช่น Blue Prism หรือ UiPath เพื่อจัดการกระบวนการปล่อยสินเชื่อและลดขั้นตอนเอกสาร
  • Loan Origination Systems (LOS) ระบบที่ธนาคารและสถาบันการเงินใช้เพื่อปรับปรุงการอนุมัติสินเชื่อ เช่น FinnOne หรือ Flexcube

สรุป

การกู้เงินผ่านสินเชื่อธุรกิจนั้น ผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการจะต้องเตรียมความพร้อม ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการดำเนินการเพื่อให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังจะต้องศึกษาข้อมูล วางแผน สร้างกลยุทธ์การใช้สินเชื่อธุรกิจให้เกิดความคุ้มค่า เพื่อสร้างกำไร ต่อยอดให้ธุรกิจเกิดความมั่นคงไปพร้อม ๆ กันด้วย

เคล็ดลับ เทคนิค รวมไปถึงแนวทางการดำเนินการ และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เราได้นำมาบอกเล่า แนะนำทั้งหมด ล้วนแล้วแต่คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับการเสริมประสิทธิภาพการใช้เงินทุน ทั้งในด้านการตอบสนองต่อเป้าหมายของกิจการ การบริหารความเสี่ยง การลงทุนในระยะยาว รวมไปถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวก และเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เพื่อประโยชน์สูงสุดที่กิจการจะได้รับนั่นเอง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

https://www.linkedin.com/pulse/maximizing-your-business-loan-strategies-success-getty-advance-x75sf/

https://banklabs.com/how-to-diversify-your-portfolio-with-business-loan-marketplace/

https://www.cflowapps.com/credit-management-process/

https://www.emagia.com/blog/5-must-have-digital-technologies-in-your-business-credit-risk-management-platform/