ขยายธุรกิจให้โตไว: เคล็ดลับการเลือกสินเชื่อธุรกิจที่ใช่สำหรับคุณ
Highlight
- วิธีการประเมินความพร้อมของกิจการก่อนยื่นขอสินเชื่อธุรกิจนั้นต้องดำเนินการในด้านต่าง ๆ ทั้งตรวจสอบสถานะทางการเงินของกิจการ ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ ประเมินความเสี่ยงและวางแผนสำรอง และการเตรียมเอกสารประกอบการขอสินเชื่อ
- เงื่อนไขกลยุทธ์เลือกสินเชื่อธุรกิจเพื่อขยายกิจการจะต้องพิจารณาปัจจัยในหลาย ๆ ด้าน ประกอบไปด้วย เป้าหมายของการใช้เงินทุน วงเงินที่ต้องการและความเหมาะสม อัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ระยะเวลาการผ่อนชำระ เงื่อนไขและความยืดหยุ่น หลักทรัพย์ค้ำประกัน (ถ้ามี) และความน่าเชื่อถือของผู้ให้สินเชื่อ
- เทคนิคการใช้เงินกู้จากสินเชื่อธุรกิจเพื่อขยายกิจการให้ตอบโจทย์ต่อเป้าหมายจะต้องคำนึงถึงภาพรวมที่เหมาะสม โดยมีทั้งการจัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็น การวางแผนการใช้เงินอย่างละเอียด การวิเคราะห์ผลตอบแทนและความเสี่ยง พิจารณาถึงความเชื่อมโยงการใช้เงินกับแผนธุรกิจ ติดตามและประเมินผลการใช้เงิน และใช้เงินกู้ในลักษณะระยะยาวและระยะสั้นอย่างสมดุล
- ข้อควรระวังและวิธีการป้องกันปัญหาจากการใช้สินเชื่อธุรกิจผิดทาง จะต้องใช้ความรอบคอบ ทั้งในด้านการกู้เงินเกินความจำเป็น ขาดแผนการใช้เงินที่ชัดเจน การประเมินผลตอบแทนผิดพลาด การเลือกสินเชื่อที่มีเงื่อนไขไม่เหมาะสม ขาดการสำรองเงินฉุกเฉิน และการละเลยการวางแผนชำระหนี้
4 เรื่องพื้นฐานสำหรับการประเมินความพร้อมก่อนยื่นกู้สินเชื่อธุรกิจ
วิธีประเมินความพร้อมของกิจการก่อนขอสินเชื่อธุรกิจเพื่อการเติบโต
เมื่อโอกาสมาถึง แต่ไม่มีเงินทุนสำหรับการขยายกิจการ ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจหลาย ๆ คนคงกำลังปวดหัวกับเรื่องการลงทุนที่ต้องวุ่นวายหาแหล่งเงิน สินเชื่อธุรกิจเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาคุณไปสู่เป้าหมายได้ ซึ่งการจะก่อหนี้นั้นจะต้องมีการคิด วางแผนอย่างรอบคอบ เป็นระบบ จึงจะช่วยอุดช่องโหว่ที่เป็นความเสี่ยงต่าง ๆ ได้
สำหรับการเตรียมความพร้อมก่อนยื่นกู้ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณต้องดำเนินการ ทั้งในด้านการประเมินศักยภาพของกิจการ และการบริหารเงินทุนให้เกิดคุณค่า สร้างความสำเร็จต่อการขยายธุรกิจให้โตไว บนพื้นฐานการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งวิธีการประเมินความพร้อมของกิจการนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง เรามีเช็คลิสต์ง่าย ๆ ที่ช่วยคุณวางแผนได้มาแนะนำ
1. ตรวจสอบสถานะทางการเงินของกิจการ
- วิเคราะห์กระแสเงินสด ตรวจสอบว่ากระแสเงินสดเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ในอนาคตหรือไม่
- ตรวจสอบงบการเงิน ตรวจดูงบกำไรขาดทุน งบดุล และงบกระแสเงินสดย้อนหลัง 2 – 3 ปี เพื่อประเมินความมั่นคง
- จัดทำประมาณการรายได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่ากิจการมีแผนสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายธุรกิจ
2. ประเมินความสามารถในการชำระหนี้
- คำนวณอัตราส่วนที่แสดงความสามารถในการชำระหนี้ ควรมีค่าเกิน 1.0 เพื่อแสดงให้เห็นว่ากิจการมีกำไรเพียงพอ
- ประเมินระดับหนี้สินปัจจุบัน ตรวจสอบว่าหนี้สินที่มีอยู่ไม่เกินขีดจำกัดที่สามารถบริหารจัดการได้
3. ประเมินความเสี่ยงและวางแผนสำรอง
- วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการขยายกิจการ เช่น การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น หรือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
- เตรียมแผนสำรอง (Backup Plan) เช่น การลดต้นทุนหรือหาแหล่งรายได้เพิ่มเติม
4. เตรียมเอกสารประกอบการขอสินเชื่อ
- เอกสารแสดงตัวตนและทะเบียนพาณิชย์
- งบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบ
- แผนธุรกิจที่ชัดเจน โดยเฉพาะเป้าหมายของการขยายธุรกิจ
- เอกสารแสดงหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ถ้ามี)
7 กลยุทธ์ช่วยคุณวางแผนเลือกสินเชื่อธุรกิจที่ใช่ ตอบโจทย์คุณได้เต็มร้อย
กลยุทธ์เลือกสินเชื่อธุรกิจเพื่อขยายกิจการ: ได้เงินครบ ใช้เงินคุ้ม
แม้ว่าจะรีบร้อนใช้เงินมากแค่ไหน แต่ก็ต้องไม่ละเลยในการเลือกแหล่งสินเชื่อธุรกิจที่สามารถมอบข้อเสนอที่ดีและคุ้มค่าที่สุดให้กับคุณ โดยเฉพาะการศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบจากสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่ง สำหรับใครที่ยังไม่เคยยื่นกู้มาก่อน ก็อาจจะเกิดคำถามขึ้นในใจว่า แล้วจะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ลองมาทบทวน ทำความเข้าใจด้วยเงื่อนไขกลยุทธ์เลือกสินเชื่อธุรกิจที่ใช่สำหรับคุณกันดู
1. เป้าหมายของการใช้เงินทุน
- ระบุอย่างชัดเจนว่าเงินกู้จะถูกนำไปใช้ทำอะไร เช่น ซื้ออุปกรณ์ เปิดสาขาใหม่ หรือเพิ่มกำลังการผลิต
- ตรวจสอบว่าการลงทุนนี้จะสร้างผลตอบแทนที่เพียงพอต่อการชำระหนี้หรือไม่
2. วงเงินที่ต้องการและความเหมาะสม
- คำนวณวงเงินที่ต้องการให้เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป
- ตรวจสอบว่าเงินกู้นั้นครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือไม่ และเหลือเงินสำรองในกรณีฉุกเฉินหรือเปล่า
3. อัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากผู้ให้สินเชื่อจากหลาย ๆ แหล่ง
- ตรวจสอบค่าธรรมเนียม เช่น ค่าดำเนินการ ค่าปรับกรณีชำระก่อนกำหนด หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
- เลือกสินเชื่อที่มีค่าใช้จ่ายรวมต่ำที่สุดและเงื่อนไขเหมาะสม
4. ระยะเวลาการผ่อนชำระ
- เลือกระยะเวลาที่สมดุลระหว่างยอดผ่อนชำระรายเดือนที่ต้องไม่สูงเกินไปและระยะเวลาการชำระหนี้ที่ไม่ยาวนานเกินไป
- พิจารณาความสามารถในการชำระคืนตามกระแสเงินสดของธุรกิจ
5. เงื่อนไขและความยืดหยุ่น
- ตรวจสอบเงื่อนไขของสินเชื่อ เช่น ความสามารถในการปรับแผนการชำระหนี้ กรณีเกิดวิกฤตในธุรกิจ
- ดูว่าอนุญาตให้ชำระคืนก่อนกำหนดหรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้หรือไม่
6. หลักประกัน (ถ้ามี)
- หากสินเชื่อต้องการหลักประกัน ให้ประเมินว่าธุรกิจของคุณมีสินทรัพย์ที่สามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้หรือไม่
- ตรวจสอบว่าเงื่อนไขการประเมินมูลค่าหลักประกันนั้นเป็นอย่างไร
7. ความน่าเชื่อถือของผู้ให้สินเชื่อ
- เลือกผู้ให้สินเชื่อที่มีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ เช่น ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินที่ได้รับการรับรอง
- อ่านรีวิวหรือสอบถามผู้ที่เคยใช้บริการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
รวม 6 เทคนิคใช้เงินกู้ให้คุ้มค่า ขยายกิจการให้โตไว
แนะเทคนิคการใช้เงินกู้จากสินเชื่อธุรกิจเพื่อขยายกิจการให้ตอบโจทย์ต่อเป้าหมาย
ผู้ประกอบการหลายรายอาจตกม้าตาย หลังจากที่ได้รับเงินกู้มาแล้ว โดยมักจะประสบปัญหาในการบริหารจัดการเงินที่ขาดประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการรั่วไหล เงินที่กู้มาไม่เพียงพอ และส่งผลกระทบทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในการขยายกิจการตามที่มุ่งหวัง เพื่อป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ มาเรียนรู้เทคนิคดี ๆ เพื่อใช้เงินกู้สินเชื่อธุรกิจทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มค่าและตอบโจทย์ต่อเป้าหมายของคุณให้ได้มากที่สุดกัน
1. จัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็น
- ความจำเป็นเร่งด่วน ใช้เงินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจประจำหรือการแก้ปัญหาสำคัญ เช่น ซื้อวัตถุดิบ ซ่อมแซมเครื่องจักร
- โครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ลงทุนในโครงการที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนหรือขยายตลาดได้เร็วที่สุด
- การสร้างความยั่งยืน ใช้เงินในส่วนที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงระยะยาว เช่น การพัฒนาบุคลากร หรือการปรับปรุงกระบวนการผลิต
2. วางแผนการใช้เงินอย่างละเอียด
- แบ่งงบประมาณ แยกเงินกู้เป็นส่วนต่าง ๆ เช่น ค่าวัสดุ ค่าจ้างแรงงาน ค่าโฆษณา
- กำหนดเวลา ระบุกรอบเวลาในการใช้เงินแต่ละส่วน เพื่อป้องกันการใช้จ่ายเกินงบ
- ตั้งงบสำรอง กันเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
3. วิเคราะห์ผลตอบแทนและความเสี่ยง
- ใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น ROI (Return on Investment) เพื่อวิเคราะห์ว่าเงินลงทุนในแต่ละส่วนจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่
- ประเมินความเสี่ยงในแต่ละโครงการ เช่น ความล่าช้าในการก่อสร้าง หรือการขาดแคลนวัตถุดิบ
4. เชื่อมโยงการใช้เงินกับแผนธุรกิจ
- ตรวจสอบว่าการใช้เงินแต่ละส่วนสอดคล้องกับเป้าหมายในแผนธุรกิจ เช่น การเพิ่มยอดขายหรือขยายฐานลูกค้า
- หากมีโครงการใดไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย ให้พิจารณาลดงบประมาณหรือเลื่อนโครงการนั้น
5. ติดตามและประเมินผลการใช้เงิน
- ตั้งตัวชี้วัด (KPIs) เช่น ยอดขายที่เพิ่มขึ้น หรือระยะเวลาคืนทุน
- ตรวจสอบการใช้เงินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
6. ใช้เงินกู้ในลักษณะระยะยาวและระยะสั้นอย่างสมดุล
- ใช้เงินกู้ระยะสั้นสำหรับค่าใช้จ่ายประจำที่จำเป็นต้องดำเนินการทันที
- ใช้เงินกู้ระยะยาวสำหรับการลงทุนที่ใช้เวลาสร้างผลตอบแทน
6 ข้อควรระวัง และแนวทางการป้องกันปัญหาที่ผู้ประกอบการควรใส่ใจ
ข้อควรระวังและวิธีการป้องกันปัญหาจากการใช้สินเชื่อธุรกิจผิดทาง
การทำธุรกิจมีปัจจัยเสี่ยงมากมายที่อยู่รายล้อมรอบตัวคุณ เพราะฉะนั้นควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท การกู้สินเชื่อธุรกิจเพื่อขยายกิจการให้โตไว ก็จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการวางแผนและบริการจัดการโดยเฉพาะในด้านการเงิน สำหรับใครที่อาจจะไม่มีข้อมูลมาก่อนว่าต้องใส่ใจในเรื่องใดเป็นพิเศษบ้าง เรามีคำแนะนำถึงข้อควรระวัง และแนวทางสำหรับการป้องกันเพื่อหยุดยั้งปัญหาการใช้สินเชื่อธุรกิจแบบผิดทางมาบอกเล่าให้กับทุกคน
1. การกู้เงินเกินความจำเป็น
- ผลกระทบ การกู้เงินมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาระหนี้สินที่สูงเกินกว่าที่ธุรกิจจะรับไหว ส่งผลต่อกระแสเงินสดและความสามารถในการชำระหนี้
- วิธีป้องกัน ควรคำนวณวงเงินที่จำเป็นอย่างรอบคอบ และกู้เฉพาะส่วนที่จำเป็นต่อการขยายกิจการ
2. ขาดแผนการใช้เงินที่ชัดเจน
- ผลกระทบ หากไม่มีแผนการจัดการที่ดี อาจนำเงินไปใช้ในโครงการที่ไม่สร้างผลตอบแทน ส่งผลให้เกิดหนี้โดยไม่เกิดประโยชน์
- วิธีป้องกัน วางแผนการใช้เงินอย่างละเอียดและกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมติดตามการใช้เงินอย่างต่อเนื่อง
3. การประเมินผลตอบแทนผิดพลาด
- ผลกระทบ หากลงทุนในโครงการที่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนตามที่คาด อาจทำให้ธุรกิจเสียโอกาสและไม่สามารถชำระหนี้ได้
- วิธีป้องกัน วิเคราะห์ผลตอบแทนและความเสี่ยงของแต่ละโครงการก่อนตัดสินใจกู้
4. การเลือกสินเชื่อที่มีเงื่อนไขไม่เหมาะสม
- ผลกระทบ การเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงหรือระยะเวลาการชำระหนี้ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ธุรกิจต้องแบกรับภาระเกินตัว
- วิธีป้องกัน เปรียบเทียบสินเชื่อจากผู้ให้บริการหลายแห่ง และเลือกสินเชื่อที่สอดคล้องกับความสามารถของธุรกิจ
5. ขาดการสำรองเงินฉุกเฉิน
- ผลกระทบ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การขาดทุนชั่วคราวหรือมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน อาจทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่องและต้องกู้เพิ่ม
- วิธีป้องกัน กันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินสำรองสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
6. การละเลยการวางแผนชำระหนี้
- ผลกระทบ หากไม่วางแผนการชำระหนี้ให้ดี อาจส่งผลต่อเครดิตของธุรกิจและโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต
- วิธีป้องกัน กำหนดตารางการชำระหนี้ที่เหมาะสมและติดตามการชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ
สรุป
ธุรกิจคุณจะสามารถขยายกิจการให้โตไว ด้วยสินเชื่อธุรกิจได้นั้น จะต้องดำเนินการด้านต่าง ๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งการทบทวนประเมินศักยภาพและความพร้อมของกิจการ เพื่อให้เข้าใจถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าที่จะได้รับในอนาคต
โดยจะต้องเลือกสินเชื่อธุรกิจที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงเป้าหมาย การใช้จ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพด้วยกลยุทธ์ที่เป็นมืออาชีพ ทั้งนี้ควรมีการบริหารจัดการเงินกู้อย่างเป็นระบบ ตรวจสอบการชำระหนี้อย่างสม่ำเสมอ มีแผนสำรองฉุกเฉิน และปรับเปลี่ยนแผนให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ทางธุรกิจ รวมทั้งยังต้องเฝ้าระวังและป้องกันเหตุที่เป็นต้นตอของความเสี่ยง เพื่อช่วยอุดรูรั่ว และหนุนกิจการของคุณให้เติบโตแบบติดจรวด ใช้เงินลงทุนทุกบาทอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด